ภูมิภาค
ฝนถล่มพัทลุงหนัก! น้ำท่วมถนน
วันจันทร์ ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2565, 20.20 น.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยา” เตือน 9-11 ต.ค.นี้ ประเทศไทยฝนตกหนักถึงหนักมากในช่วงวันที่ 9-14 ตุลาคม 2565 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งเกิดขึ้น สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมาก จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง มีดังนี้ ภาคใต้ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูลในช่วงวันที่ 9-11 ตุลาคม 2565
ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังในช่วงนี้ จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งจะจังหวัดพัทลุงเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยในช่วงนี้ จึงให้วันนี้ 10 ตุลาคม 2565 เมื่อเวลา 16.30 น. ทำให้เกิดฝนตกหนักเกือบทุกพื้นที่ของจังหวัดพัทลุง โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอเมือง อำเภอควนขนุน และอำเภอศรีนครินทร์ ฝนตกหนักเป็นเวลาเกือบ 1 ชั่วโมง และเป็นช่วงเลิกงานจึงทำให้หลายคนติดค้างที่อยู่ทำงานเป็นเวลานานเช่นเดียวกัน ขณะที่ฝนตกลงมาอย่างหนักนั้นทำใหมีน้ำบนผิวจราจรหลายพื้นที่ในเขตเทศบาลเมืองพัทลุงและถนนรอบนอก ทำให้ผู้ขี่ขับรถต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ขณะเดียวกันก็มีประกาศเตือนให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดพัทลุงระมัดระวังน้ำท่วมฉลันน้ำป่าไหลหลาก หากเกิดฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันโดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยพื้นที่เสี่ยงภัย ในอำเภอกงหรา อำเภอตะโหมด อำเภอศรีนครินทร์ และอำเภอศรีบรรพต ซึ่งอยู่ริมเทือกเขาบรรทัด ส่วนประชาชนที่อาศัยบริเวณทาน้ำไหลผ่านให้ระมัดระวังน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมฉลัน ในช่วงเวลาดังกล่าว
ขณะที่ เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 10 ตุลาคม 65 ที่ผ่านมา ฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดพัทลุงโดนเฉพาะในพื้นที่ อ.เมือง ทำให้น้ำระบายไม่ทัน ท่วมผิวการจราจร บนถนนเพชรเกษมพัทลุง ตรัง ระยะทางยาวกว่า 500 เมตร รถเล็ก และรถจักรยานยนต์ต้องใช้ความระมัดระวัง ต้องวิ่งช่องทางบนถนนเลน เดี่ยว
ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ริมถนน ต่างออกมาถือไม้ คนละอันฝ่าสายฝน เพื่อเอาใบไม้ที่ปิดทับช่องทางระบายน้ำ เพื่อให้น้ำได้ไหลคงคูได้สะดวกขึ้น จนน้ำระบายได้ในที่สุด หลังฝนหยุดตก
โดยชาวบ้านระบุว่าปกติฝนตกระดับน้ำตรงจุดนี้น้ำไม่ท่วมผิวทางจราจร แต่ปีนี้หลังจากที่กรมทางหลวงได้ทำวงเวียนตรงสีแยกเอเซีย เพื่อให้รถได้วิ่งสะดวก แต่การออกแบบท่อระบายน้ำโดยรูระบายน้ำจากถนนลงสู่ท่อนั้น มันขนาดเล็ก ทำให้น้ำระบายไม่ทันดังกล่าว
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่