น้ำยางสดทะลุ 70 บาทแล้ว แกนนำสวนยางชี้มีสิทธิได้เห็นราคายาง 75 บาท
เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การซื้อขายน้ำยางสดโดยวิธีตกลงราคาของสำนักงานตลาดกลางยางพาราจังหวัดสุราษฎร์ธานี การยางแห่งประเทศไทย ได้ราคาสูงสุดกิโลกรัมละ 70.70 บาท ต่ำสุดที่กิโลกรัมละ 69.50 บาท โดยกลุ่มราคา 70.20-70.70 บาท มีปริมาณน้ำยาง 6,000 กิโลกรัม ราคา 69.50-70.00 บาท ปริมาณ 21,000 กิโลกรัม ซึ่งได้ดันราคาน้ำยางสดในตลาดท้องถิ่นขึ้นมาอีกกิโลกรัมละ 1 บาท อยู่ที่ 66.25 บาท มีราคาแซงยางแผ่นดิบคุณภาพดีที่ตลาดกลางกิโลกรัมละ 63.55 บาท และยางแผ่นดิบท้องถิ่น 61 บาท ทำให้เกษตรกรชาวสวนยางหันมาขายน้ำยางสดเป็นรายวันที่ได้ราคาดีกว่า
นายศิวะ ศรีชาย รองเลขาธิการสภาเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย (สคยท.) เปิดเผยว่า สาเหตุที่ราคายางพาราดีดตัวสูงขึ้นต่อเนื่องช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จนล่าสุดเกษตรกรสามารถขายน้ำยางและยางแผ่นดิบชั้น 3 ได้ราคาดีเป็นผลมาจากความต้องการใช้ยางพาราของตลาดโลก หลังจากหลายประเทศซึ่งเป็นคู่ค้าสำคัญของไทย เช่น เกาหลี ญี่ปุ่น จีน สหรัฐอเมริกา และกลุ่มประเทศยุโรปฟื้นตัวจากปัญหาโรคโควิด-19 ระบาดและหันมาเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ ประกอบกับเป็นช่วงที่กำลังเตรียมการส่งมอบสินค้าในตลาดซื้อขายล่วงหน้า ทำให้พ่อค้าต้องเร่งนำยางเข้าสต๊อกให้ทันเวลาส่งมอบ
นายศิวะกล่าวว่า ในฤดูกาลผลิตปี 2564/2565 ทุกประเทศในภูมิภาคเอเชียที่ผลิตยางพารา ต้องประสบกับปัญหาฝนตกไม่ตรงตามฤดูกาล และมีฝนมากกว่าปกติ ทำให้มีวันกรีดยางลดลง ส่งผลต่อผลผลิตมีปริมาณลดลงประมาณร้อยละ 20 โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ พบว่าตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 ถึงปัจจุบันชาวสวนยางสามารถกรีดยางได้เฉลี่ยเพียง 20 วันเท่านั้น และคาดว่าสถานการณ์ราคายางพาราจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องไปจนถึงเดือนมิถุนายน
“คาดว่าอาจได้เห็นราคายางแผ่นกิโลกรัมละ 75 บาท หลังจากนั้นอาจปรับลงมาเล็กน้อย แต่เชื่อว่าเป็นราคาที่เกษตรกรพึงพอใจ สิ่งที่ต้องการคืออยากให้ภาครัฐรักษาระดับราคาให้มีความเสถียรภาพ แม้ว่าในขณะนี้เราจะไม่มีปัญหาขาดแคลนยางสำหรับใช้ในประเทศไทย แต่เรายังขาดความมั่นคงในการสำรองยางเพื่อส่งออก เพราะแม้แต่ประเทศที่ไม่ได้เป็นผู้ผลิตยางรัฐยังกำหนดให้มีสต๊อกยาง เช่น จีนมีสต๊อกยางประมาณ 7-8 แสนตัน ขณะที่สหรัฐอเมริกาก็มีประมาณ 5 แสนตัน ซึ่งประเทศไทยเป็นผู้ผลิตควรจะมีสต๊อกยางอย่างน้อย 3-5 แสนตัน ตรงนี้จะทำให้ราคายางมีเสถียรภาพโดยไม่ต้องมีความหวังจากความต้องการของตลาดโลกอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้” นายศิวะกล่าว
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่