เล่นมาอ้างชื่อ บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. น้องเลิฟส่งโควตาน้ำมันเรือมาขายให้เรือประมง มีหรือรุ่นพี่อย่าง บิ๊กโอ๋-พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบช.ภ.1 จะนั่งอยู่แต่ในห้องแอร์ ไม่สนใจไยดี เลยต้องเดินทางมาที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี เกาะติดคดีที่มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความ กรณีมีชายคนหนึ่งเสนอขายน้ำมันที่ใช้ในเรือประมง โดยอ้างว่าได้โควตาน้ำมันมาจาก พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมคนร้ายมาได้ คือนายปริพัฒน์ ทำให้ บิ๊กโอ๋ ต้องมาสอบปากคำด้วยตัวเอง พร้อมแถลงข่าว ผู้ก่อเหตุอ้างว่าขายน้ำมันราคาถูก หากมีผู้หลงเชื่อก็จะหลอกให้โอนเงินมัดจำมาก่อน จากนั้นก็ปิดช่องทางการติดต่อแล้วหลบหนี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลว่ามีผู้ร่วมขบวนการหรือไม่ ผู้ต้องหารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่า ไม่มีน้ำมันเขียวสำหรับไว้ขาย ที่แอบอ้างชื่อ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ก็เพื่อให้ผู้อื่นหลงเชื่อ…นี่ให้รู้ซะบ้าง อ้างชื่อใครไม่รู้สี่รู้แปด ก็ต้องเจอรวบอย่างรวดเร็วแบบนี้ ๐
ต้องเรียกว่าเป็น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สาขา 2 สำหรับ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ป.ป.ง. หน่วยงานขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี มีอำนาจหน้าที่ในการวางหลักเกณฑ์ และดูแลให้มีการปฏิบัติตามกฎหมาย ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน รวมทั้งเป็นหน่วยงานตรวจสอบวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน เพราะตรวจแถว เลขาฯ ป.ป.ง. ล้วนเป็น ตำรวจ แทบทั้งสิ้น เริ่มจาก พล.ต.ท.วาสนา เพิ่มลาภ มาเป็น พล.ต.ต.พีรพันธุ์ เปรมภูติ ต่อด้วย พ.ต.อ.ยุทธบูล ดิสสะมาน แล้วมา พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ จากนั้นก็ พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ตามด้วย พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ วีริยาสรร และปัจจุบันคือ ดอกเตอร์ปิง-พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง ซึ่งจะเกษียณอายุราชการ 30 ก.ย.นี้ ล่าสุด ครม.มีมติอนุมัติตามที่ วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเสนอ รับโอน พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รอง ผบช.ภ.6 ไปดำรงตำแหน่ง รองเลขาฯ ป.ป.ง. ท่ามกลางเสียงหนาหูน่าจะโยกมาจ่อคิวขึ้น เลขาฯ ป.ป.ง. ต่อจาก ดอกเตอร์ปิง แบบนี้ไม่เรียกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สาขา 2 แล้วจะเรียกว่ากระไร ๐
งามไส้! น่าจะเป็นคำที่เหมาะสมจริงๆ กับเหตุการณ์ที่ ดาบตำรวจธวัชชัย เบิกปืนออกมาใช้ปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แล้วนำอาวุธปืนนั้นไปจำนำเพื่อนำเงินมาใช้จ่าย จนปืนถูกขายต่อเป็นทอดๆ กระทั่งมาพบเมื่อตำรวจจับกุมคนร้ายคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนสงคราม M-16 ยิงบ้านคู่กรณี สาเหตุจากการขับรถเฉี่ยวชนกันในพื้นที่ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง และพบว่าปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนของทางราชการ ซึ่งไม่รู้ว่า “ปืนหลวง” ที่หลุดรอดออกมาอยู่ในตลาดมืด อยู่ในมือคนร้าย มีเพียงกระบอกนี้หรือไม่เท่านั้น คงต้องฝาก บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. สานต่อเป็นนโยบายตรวจเช็กอาวุธปืนหลวงที่ ตำรวจ เบิกไปใช้นั้น ปัจจุบันยังอยู่กับ ตำรวจ ที่เบิก หรือเอาไปจำนำขายทอดตลาดกันไปกี่กระบอกแล้ว บอกตรงๆ งามไส้ดั่งว่าจริงๆ
ต้องพักรักษาตัวอีกระยะ สำหรับ บิ๊กเกรียง-พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 หลังจากประสบเหตุเฮลิคอปเตอร์ แบล็กฮอว์ก ร่วงกลางสวนยางพารา อ.เทพา จ.สงขลา เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เหล่าบรรดา แฟนคลับ ดินแดนด้ามขวานต่างส่งกำลังใจให้อย่างต่อเนื่อง พร้อมให้กำลังใจทหาร กอ.รมน.ภาค 4 สน.อีก 6 นายที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุครั้งนี้หายเป็นปกติเร็ววัน โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่การบิน พ.ต.ประสาร ด้วงชาญ (นักบิน), ร.ท.ณัฐ โลหากาศ, จ.ส.อ.พิษณุุ พันเต, จ.ส.อ.ธีรพงษ์ คูหาแก้ว ที่ต้องขอปรบมือให้ในการตัดสินใจบังคับเครื่องลงได้ในสถานการณ์วิกฤต แต่ที่แน่ๆ หลังจากนี้ “บิ๊กเกรียง” คงได้ฉายาเพิ่มจาก “นักรบฟันเฉาะเปลือกมะพร้าว” “แม่ทัพร้อยหมาย” เป็น “เกรียงกระดูกเหล็ก” อีกหนึ่งฉายา โดยมี เพื่อนบี้-พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ส่งกำลังใจและสั่งการกองทัพภาคที่ 4 ดูแลผู้บาดเจ็บทุกคนให้ดีที่สุด และให้คณะกรรมการนิรภัยการบิน ทบ.ลงพื้นที่หาสาเหตุของการตกต่อไป
นึกถึง “โผทหาร” ที่กำลังเขย่ากันก่อนรอบรองสุดท้าย แว่วว่า “บิ๊กเกรียง” อาจได้ลุ้นนั่งยาวในตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 4 เพื่อทำงานในพื้นที่ที่ตนเองถนัดไปถึงเกษียณอายุราชการในปี 2566 หลังจากที่มีข่าวว่า “บิ๊กบี้” ตั้งใจดึงขึ้นมาเข้า 5 เสือ ทบ.นั่งเก้าอี้เสนาธิการทหารบกเลยทีเดียว เพราะในฝ่ายอำนวยการที่มีอยู่ในตัวเลือกทั้งเพื่อนร่วมรุ่น และรุ่นน้อง ยังไม่ใช่คนที่คลิก แต่หากในที่สุด “บิ๊กเกรียง” ต้องเข้ามานั่ง 5 เสือ ทบ. ที่ไม่ใช่เก้าอี้ เสธ.ทบ. ก็เชื่อว่าในการส่งไม้ต่อให้แม่ทัพภาคที่ 4 คนต่อไปคงไร้รอยต่อ แม้ตอนนี้ 3 แคนดิเดตรองแม่ทัพยังคู่คี่สูสีกันมาก ทั้ง พล.ต.อุทิศ อนันตนานนท์, พล.ต.ไพศาล หนูสังข์, พล.ต.ศานติ ศกุนตนาค แต่รอบนี้คาดว่า “บิ๊กบี้” คงต้องฟังเสียง “บิ๊กเกรียง” ในการเลือกใครคนใดคนหนึ่งขึ้นมา และที่น่าจะมาแรงสุดคงเป็น พล.ต.ไพศาล หนูสังข์ ที่ทำงานไล่หลังมาด้วยกันกับ “บิ๊กเกรียง” ในฐานะลูกหม้อ ร.25 ค่ายวิภาวดีรังสิต จ.สุราษฎร์ธานี ๐
บิ๊กแก้ว-พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ระหว่างวันที่ 11-13 ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างทั้งสองกองทัพ โดยผู้บัญชาการทหารสูงสุดเดินทางไปวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์นักรบนิรนาม ซึ่งสร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่เหล่าทหารกล้าที่สละชีวิตเพื่อปกป้องสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จากนั้นได้เข้าหารือข้อราชการกับ พล.ต. คำเลียง อุทะไกสอน รองรัฐมนตรีกระทรวงป้องกันประเทศ/หัวหน้ากรมใหญ่เสนาธิการ กองทัพประชาชนลาว พร้อมเข้าเยี่ยมคำนับ พล.อ.จันสะหมอน จันยะลาด รัฐมนตรีกระทรวงป้องกันประเทศ/รองนายกรัฐมนตรี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยถึงการลักลอบขนส่งยาเสพติดตามแนวชายแดน ที่ทั้งสองกองทัพได้ดำเนินการร่วมกันอย่างต่อเนื่อง และการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคมเพื่อนำไปสู่ความมั่นคงในภูมิภาคต่อไป ๐
เป็นอีกภารกิจหนึ่งของ กองบิน 7 และศูนย์สนับสนุนทางอากาศโดยตรงที่ 4 หลังจากได้รับการประสานขอความอนุเคราะห์ด่วนจากโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี เพื่อขอสนับสนุนอากาศยานสำหรับเคลื่อนย้ายผู้ป่วยหญิงชาวเมียนมา อายุ 29 ปี ซึ่งมีอาการชักเกร็ง กระตุก แขนขาด้านซ้ายอ่อนแรง มีความจำเป็นต้องนำตัวผู้ป่วยเข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วน ด้วยวิธีการใส่สายสวนเพื่อขยายหลอดเลือด โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลตรัง พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ได้สั่งการให้ศูนย์ยุทธการทางอากาศ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ สนับสนุนเฮลิคอปเตอร์แบบที่ 11 (EC-725) เพื่อปฏิบัติภารกิจดังกล่าว และมอบหมายให้ ผู้การเงาะ-น.อ.พุทธพงศ์ ผลชีวิน ผู้บังคับการกองบิน 7 เป็นผู้อำนวยการปฏิบัติ โดยเฮลิคอปเตอร์ EC-725 สังกัดหน่วยบิน 2037 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ของกองบิน 7 ได้ปฏิบัติงานร่วมกับทีมแพทย์ พยาบาล ของโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ในการลำเลียงผู้ป่วยทางอากาศ สำหรับการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยเส้นทางบิน กองบิน 7 ไปยังสนามบินตรัง เพื่อส่งตัวเข้ารับการรักษา ณ โรงพยาบาลตรัง เมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา.