คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
โดย…สุรชัย ส้มเกลี้ยง – เรื่อง/ภาพ
ผ่าชนวนสลดเวียงสระ ปมแย่งที่มรดกแค่6ไร่ รัว.38หมดโม่ดับพี่สาว
“พี่เห้อ นุ้ยขอโทษ”
คำขอขมาที่ออกจากปาก นางอรอุมา ชูช่วยสุวรรณ สาวชาวเวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี ระหว่างตำรวจ สภ.เขานิพันธ์ คุมตัวไปชี้จุดเกิดเหตุและทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก่อเหตุฆ่าพี่สาวร่วมอุทร สาเหตุจากขัดแย้งเรื่องแย่งมรดกที่ดิน ภบท.5 เนื้อที่เพียง 6 ไร่เท่านั้น
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเช้าวันที่ 15 ธ.ค. ร.ต.อ.นพดล วรรณบุรี รองสว.(สอบสวน) สภ.เขานิพันธ์ จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงเสียชีวิต ที่พื้นที่ หมู่ 8 ต.เขานิพันธ์ อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี
ทำแผนฯ ย้อนนาทีลั่นไกในที่เกิดเหตุ
ผู้กองรีบรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ก่อนนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมพ.ต.อ.วรวิทย์ เจริญศุภผล ผกก. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่พฐ. แพทย์ร.พ.สมเด็จพระยุพราชเวียงสระ
ที่เกิดเหตุเป็นถนนภายในสวนยางพารา พบศพนางกัญญาภัทร พรหมขวัญ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/6 ม.8 ต.เขานิพันธ์ อ.เวียงสระ สวมเสื้อผ้าชุดสำหรับกรีด-เก็บน้ำยางพารา นอนตะแคงข้างอยู่กลางถนน
สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 เข้าท้ายทอยเหนือหูข้างขวา หน้าท้องขวา ศีรษะด้านหลังใบหูซ้าย หน้าอกเหนือราวนมซ้าย และแผ่นหลังข้างซ้าย รวม 5 แผล
ใกล้กันพบโทรศัพท์มือถือตกอยู่ 1 เครื่อง มีดพร้าอยู่ข้างศพ 1 เล่ม และมีดอีกเล่มตกห่างออกไป 5 เมตร
นายกีรติศักดิ์ เพชรกรณ์ อายุ 27 ปี ลูกชายผู้ตายให้การว่า ช่วงเกิดเหตุกำลังกรีดยางอยู่ห่างไปประมาณ 200 เมตร ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดจึงรีบวิ่งมาดู พบว่าแม่ถูกยิงนอนสิ้นลมหายใจไปแล้ว
ตำรวจสอบปากคำญาติหาสาเหตุ
ลูกชายผู้ตายยืนยันว่าแม่ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับคนอื่น ยกเว้นเพียงนางอรอุมา ชูช่วยสุวรรณ น้าสาวพี่น้องท้องเดียวกันกับแม่ ที่ขัดแย้งเรื่องการแบ่งแยกที่ดินมรดกถึงขนาดขึ้นโรงขึ้นศาลฟ้องร้องกันมาก่อน
ต่อมาศาลตัดสินแบ่งแยกกันแล้ว แต่ยังคงมีปัญหาเรื้อรังตามมาไม่เลิก คาดว่าจะเป็นชนวนเหตุการฆาตกรรมครั้งนี้
หลังได้เบาะแสสำคัญ เจ้าหน้าที่จึงขออำนาจศาลอนุมัติหมายจับ ก่อนตามไปรวบตัวได้ขณะหลบซ่อนที่บ้านญาติ ในพื้นที่ ม.4 บ้านคลองรำพา ต.เขานิพันธ์ พร้อมอาวุธปืนขนาด .38 ที่คาดว่าเป็นอาวุธที่ใช้ก่อเหตุ พร้อมสามีที่เป็นเจ้าของปืน
เจ้าหน้าที่เค้นสอบปากคำตลอดทั้งคืน กระทั่งนางอรอุมาทนแรงกดดันไม่ไหวเปิดปากรับสารภาพจนหมดเปลือก
ต้นสายปลายเหตุมาจากความรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากพ่อแม่แบ่งที่ดินมรดกเนื้อที่ 6 ไร่กว่า ซึ่งเป็นสวนยางพาราไม่มีเอกสารสิทธิ มีเพียงใบรับรองเสียภาษีบำรุงท้องที่ (ภบท.5) เนื้อที่ 6 ไร่กว่า
โดยผู้ตายที่เป็นพี่สาวได้ที่ดินไปถึง 5 ไร่ ส่วนตัวเธอได้แค่ 1 ไร่เศษ และยังเป็นที่ติดเชิงเขาใช้ทำมาหากินได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างพี่น้องแท้ๆ ที่คลานตามกันมา
สุดท้ายเรื่องก็ไปสิ้นสุดที่ศาล โดยศาลตัดสินให้ฝ่ายผู้ตายชนะคดี ทำให้ตนต้องผิดหวังซ้ำอีกครั้ง จึงเก็บความแค้นเอาไว้ในใจตลอดมา
ก่อนเกิดเหตุบังเอิญไปพบพี่สาวระหว่างทางจะไปที่สวนยางพาราของตัวเอง จนเกิดการโต้เถียงและยื้อแย่งมีดพร้าของแต่ละฝ่าย สุดท้ายตนชักปืนลูกโม่ขนาด .38 ของสามีที่นำมาพกติดตัว กระหน่ำยิงพี่สาวไม่ยั้งจนลูกปืนหมดโม่แล้วหลบหนีไปบ้านญาติ กระทั่งตำรวจตามไปจับกุม
นางอรอุมา ชูช่วยสุวรรณ ถูกคุมตัวมาสอบสวน
เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหา ข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุสมควร ยิงปืนโดยใช่เหตุ ในเมืองหมู่บ้านและชุมชน
ส่วนตัวสามีนั้น นอกจากเป็นเจ้าของปืนแล้วไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุสลดครั้งนี้ เจ้าหน้าที่จึงสอบปากคำพร้อมกันตัวไว้เป็นพยานแล้วปล่อยตัวไป
คนเป็นพ่อแม่คงไม่เคยคาดคิดว่า ทรัพย์สินที่ขวนขวายหามาด้วยความยากลำบากตลอดชีวิต และทิ้งไว้ให้เป็นมรดกหวังให้ลูกหลานได้มีที่ดินไว้ทำกินสร้างความเป็นอยู่สุขสบาย กลับกลายเป็นต้นเหตุให้พี่น้องท้องเดียวกันเปิดศึกสายเลือด
ชนิดผีไม่เผาเงาไม่เหยียบ ต้องตายกันไปข้างหนึ่ง!!?