เขียนวันที่
วันศุกร์ ที่ 15 กรกฎาคม 2565 เวลา 20:56 น.
เหตุการณ์ระทึกขวัญ เฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กของกองทัพภาคที่ 4 เครื่องยนต์ขัดข้อง ต้องลงจอดฉุกเฉินบริเวณสวนยางพาราในพื้นที่ ต.วังใหญ่ อ.เทพา จ.สงขลา ทำให้มีเจ้าหน้าที่ทหารทั้งหมด 7 นายได้รับบาดเจ็บจากแรงกระแทกระหว่างที่เฮลิคอปเตอร์ลงสู่พื้นและเสียการทรงตัว
ปรากฏว่าหนึ่งในนั้นมี พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้รับบาดเจ็บด้วย กระดูกสะโพกขวาหัก แต่ยังรู้สึกตัว ซึ่งต่อมาได้ถูกส่งตัวไปรับการผ่าตัดรักษายังโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
สำหรับ พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ หรือ “บิ๊กเกรียง” หรือ “แม่ทัพเกรียง” ขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 4 เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2563 โดยรับไม้ต่อจาก พล.อ.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ หรือ”บิ๊กเดฟ” ที่ขยับเข้าไลน์ 5 เสือก่อนเกษียณอายุราชการ โดยปัจจุบัน “บิ๊กเดฟ” ดำรงตำแหน่งเป็น “ผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้”
พล.ท.เกรียงไกร เป็นชาว จ.สุราษฎร์ธานี เกิดเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2506 อายุราชการยาวถึงปี 2566 เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 22 (ตท.22) และนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่น 33 (จปร.33) รุ่นเดียวกับ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก
พล.ท.เกรียงไกร ติดยศร้อยตรี เมื่อปี 2529 เริ่มรับราชการครั้งแรกที่กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 25 (ร.25 พัน 3) ค่ายวิภาวดีรังสิต จ.สุราษฎร์ธานี
จากนั้นชีวิตราชการเติบโตอยู่ในกองทัพภาคที่ 4 มาตลอด เคยเป็นผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 42 เปิดยุทธการไล่ล่าโจรจีนคอมมิวนิสต์ หรือ จคม. เคยเป็นเสนาธิการจังหวัดทหารบกปัตตานี รองผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 รองผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 5 ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 5 และเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 4 เมื่อปี 2562 ก่อนผงาดขึ้นเป็นแม่ทัพในปีถัดมา นับเป็นแม่ทัพภาคที่ 4 คนที่ 13 ตั้งแต่ไฟใต้ปะทุขึ้นมาเมื่อปี 2547
สมัยเป็นรองแม่ทัพ พล.ท.เกรียงไกร ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับ “บิ๊กเดฟ” มาโดยตลอด กระทั่งรับไม้ต่อ ทำหน้าที่แม่ทัพดับไฟใต้ต่อไป รวมถึงภารกิจใหญ่เรื่องปราบปรามยาเสพติด ซึ่งเป็นนโยบายที่ “บิ๊กเดฟ” ขับเคลื่อนมาตลอด
“แม่ทัพเกรียง” ถือเป็นนายทหารสายบู๊ ถึงลูกถึงคน ลงพื้นที่ต่อเนื่อง เวลามีปฏิบัติการปิดล้อม ตรวจค้น ยิงปะทะ หลายครั้งก็ลงพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์ด้วยตนเอง และตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา (ตั้งแต่เป็นรองแม่ทัพ) ฝ่ายกองกำลังได้เปิดยุทธการปิดล้อมไปแล้ว 23 ครั้ง ยิงปะทะผู้ก่อเหตุรุนแรงและผู้ต้องหาคดีความมั่นคงเสียชีวิตไปทั้งสิ้น 53 ราย
บุคลิกของ พล.ท.เกรียงไกร ยังเข้าถึงชาวบ้าน เข้าพบง่าย เป็นกันเอง มีคอนเนคชั่นหลากหลายวงการ และยังมีบทบาทสำคัญในกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขดับไฟใต้ ตั้งแต่ยุค “บิ๊กเมา” พล.อ.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ เป็นหัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ จนถึงยุคปัจจุบันที่มี “บิ๊กลภ” พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ เป็นหัวหน้าคณะพูดคุยฯ ด้วย
นอกจากนั้น พล.ท.เกรียงไกร ยังมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับภาคประชาสังคมหลากหลายกลุ่ม จึงถือว่าเป็นนายทหารที่ได้รับการยอมรับจากแทบทุกภาคส่วนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
สำหรับการแต่งตั้งโยกย้ายวาระปลายปี เดือนกันยายนนี้ มีข่าวว่า พล.ท.เกรียงไกร จะได้ขยับไปตำแหน่งที่สูงขึ้น ติดยศพลเอกในปีสุดท้ายของอายุราชการ โดยมีข่าวว่า พล.ท.เกรียงไกร ได้เสนอชื่อแม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่ไปให้ผู้บัญชาการทหารบกแล้ว เพื่อคัดเลือกผู้เหมาะสมเข้าดำรงตำแหน่งต่อไป