ทันหุ้น – RPประกาศความพร้อมรับเปิดเมือง เตรียมกดปุ่มเปิดท่าเรือใหม่ให้บริการปลายปีนี้ คาดรับนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเท่าตัวกว่า 1.2 หมื่นคนต่อวัน ชูกลยุทธ์สู้โควิดจับมือพันธมิตรโลจิสติกส์ทุกภาคส่วน ขนส่งสิ่งของ และสินค้าอุปโภคบริโภค เพิ่มช่องทางสร้างรายได้
นายชาคริต โอภาสอุดม รองกรรมการผู้จัดการ สายงานบัญชีและการเงิน บริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) หรือ RP เปิดเผยว่า หากมีการเปิดเมืองให้นักท่องเที่ยวเข้ามาได้มากขึ้น ทางท่าเรือราชาเฟอร์รี่มีความพร้อมให้บริการ ซึ่งปัจจุบันมีท่าเรืออยู่ที่อำเภอดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี 3 ท่า และได้มีการสร้างท่าเทียบเรือที่ 4 และ 5 เพิ่มขึ้น คาดจะสามารถเปิดรับนักเที่ยวได้มากขึ้นในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งจะทำให้สามารถรับนักท่องเที่ยวได้เพิ่มขึ้นวันละ 12,000-15,000 คนต่อวัน จากเดิม 6,000 คนต่อวัน สำหรับท่าเรือสมุย ปัจจุบันมีอยู่ 4 ท่า
จับมือพันธมิตรขนส่ง
ปัจจุบันบริษัทมุ่งเน้นงานด้านโลจิสติกส์เป็นหลัก โดยได้เป็นพันธมิตรกับกลุ่มประกอบการธุรกิจขนส่ง ซึ่งจะขนส่งอาหาร บรรจุภัณฑ์ สินค้าอุปโภคบริโภค และอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อสร้าง ทำให้สัดส่วนของรายได้แบ่งเป็นโลจิสติกส์ 60-70% และท่องเที่ยว 30-40%
สำหรับทิศทางการท่องเที่ยวหากมีการผ่อนคลายจากมาตรการรัฐ ในกลุ่มที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วสามารถเข้ามาท่องเที่ยวได้น่าจะทำให้นักท่องเที่ยวกลับมามากขึ้น ซึ่งปัจจุบันยังมีมาตรการที่คุมเข้มในเรื่องของบุคคลภายนอกที่มาจากพื้นที่เสี่ยง เข้ามาในเกาะต่างๆ จะต้องมีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อน
“ทิศทางธุรกิจตอนนี้ยังต้องรอดูมาตรการของภาครัฐ ซึ่งปัจจุบันยังมีการสว็อปตรวจเชื้อหาเป็นผู้ที่เป็นบุคคลภายนอกที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงเข้ามา แต่เชื่อว่าหากนโยบายผ่อนปรนจากภาครัฐ และกระทรวงสาธารณสุข ให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มเดินทางเข้ามาได้ เชื่อว่านักท่องเที่ยวจะกลับมามากขึ้น รวมถึงแผนเปิดเมืองของทางภาครัฐ น่าจะเป็นส่วนช่วยได้มาก ซึ่งในส่วนของธุรกิจตอนนี้เราเน้นไปที่โลจิสติกส์เป็นกลุ่มลูกค้าหลัก ซึ่งเรามีพันธมิตรกับขนส่ง อาหาร พัสดุ บรรจุภัณฑ์ สินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ ที่ยังต้องใช้บริการในการขนส่งจากเรา” นายชาคริต กล่าว
สร้างศูนย์กระจายสินค้า
ด้านนายอภิชาติ ชโยภาส กรรมการผู้จัดการ บมจ. ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ (RP) กล่าวก่อนหน้านี้ว่า หากมีการเปิดประเทศรับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาได้ในช่วงไตรมาส 4/2564 เชื่อว่าจะทำให้ผลประกอบการกลับมาดีขึ้นได้ เนื่องจากนักท่องเที่ยวต่างชาติมีความต้องการเที่ยวในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ในเทศกาลต่างๆ โดยเฉพาะช่วงฟลูมูนปาร์ตี้ ที่เกาะพงัน ซึ่งได้รับความนิยม
ขณะที่ปัจจุบันบริษัทได้ร่วมมือกับพันธมิตรด้านโลจิสติกส์ ได้แก่ Kerry Express, Tp Logistics และ Nim Express รวมไปถึงร่วมมือกับสายการบินและรถโดยสารอีกหลากหลายแห่ง เช่น สายการบิน MAI, AIR KBZ, AirAsia, Thai Lion Air, ATP30, Phantip และเกาะเต่าวินด์
อีกทั้งได้วางแผนสร้างศูนย์กระจายสินค้า บนพื้นที่กว่า 400 ไร่ ที่อำเภอดอนสัก เพื่อการให้บริการอย่างครบวงจรทั้งการขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีคลังสินค้าบนเกาะใหญ่อยู่แล้ว จึงเป็นโอกาสในการลำเลียงสินค้าไปยังเกาะย่อยที่เหลือ รวมถึงการส่งออกสินค้าที่คาดว่าจะสร้างรายได้อีกช่องทางหนึ่ง ซึ่งจะเป็นสินค้าในกลุ่มหัตถกรรม อาหารทะเล และภาคการเกษตร โดยเฉพาะเกาะสมุย ซึ่งเป็นพื้นที่เพาะปลูกทุเรียนอันดับ 1 ในจ.สุราษฎร์ธานี มียอดส่งออกในปีที่ผ่านมาเกือบ 2 พันล้านบาท