สุราษฎร์ธานี – หนุ่มสมุยแทบช็อก ระหว่างขับรถยนต์กลับบ้านกลางดึก พบจระเข้ ความยาวประมาณ 1.50 เมตร น้ำหนักประมาณ 30-40 กิโลกรัม สภาพหิวโซนอนอ้าปากขวางถนน โร่แจ้งกู้ภัยจับ
นายณัฐพงษ์ สมสนอง อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสงเคราะห์เกาะสมุย อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 02.30 น.วันนี้ (1 เม.ย.) ได้รับแจ้งจากนาย วสวัตติ์ ดำทอง ว่า ระหว่างขับรถยนต์เก๋งฟอร์ดสีแดง หมายเลขทะเบียน ขจ 9117 สงขลา มากับเพื่อนสาวเพื่อกลับบ้านพักภายในซอยเขาพระ หมู่ 1 ตำบลบ่อผุด อำเภอเกาะสมุย ได้พบจระเข้ลักษณะนอนอ้าปากขวางถนน ขอให้อาสามัครหน่วยกู้ภัยเดินทางมาตรวจสอบและช่วยจับด้วย
จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ พบกับนายวสวัตติ์ ผู้แจ้งรออยู่บริเวณถนนคอนกรีตในซอยเขาพระ พร้อมชี้ให้ดูจระเข้ขนาดใหญ่ซึ่งนอนอ้าปากขวางถนนอยู่ ยาวประมาณ 1.5 เมตร ไม่ทราบเพศ อายุประมาณ 2-3 ปี น้ำหนักประมาณ 30-40 กิโลกรัม จึงได้ทำการใช้เชือกคล้องลำคอและปากมัดเอาไว้ โดยพบว่าท่าทางของจระเข้มีอาการหิวโซ ระหว่างจับกุมทีท่าทางดุร้าย ใช้เวลาในการจับประมาณ 10 กว่านาที หลังจากจับได้นำมาไว้ที่ศูนย์กู้ภัยมูลนิธิกุศลสงเคราะห์เกาะสมุย เพื่อรอเจ้าของ พร้อมกันนี้ได้ประสานไปที่ประมงอำเภอเกาะสมุยแล้ว เพื่อทำการตรวจสอบหาเจ้าของ
ทั้งนี้ นายณัฐพงษ์ สมสนอง อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยที่ไปจับจระเข้ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา บนเกาะสมุยยังไม่พบจระเข้มาเดินเพ่นพ่านบนถนน ครั้งนี้เป็นครั้งแรก
ขณะที่นายวสวัตติ์ ผู้พบจระเข้ กล่าวกับอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสงเคราะห์เกาะสมุย ว่า ระหว่างขับรถกลับที่พักในซอยเขาพระ ปกติทุกคืนจะขับรถผ่านไม่เคยพบจระเข้ แต่ในคืนเกิดเหตุ ถนนสายดังกล่าวค่อนข้างเปลี่ยวไม่มีไฟแสงสว่างจากถนน โดยใช้แสงไฟจากหน้ารถ เมื่อขับรถมาถึงพบเงาสีดำนอนอยู่บนถนน เพื่อนจึงได้ยกโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกภาพเอาไว้ แต่เมื่อมองดูพบว่าเป็นจระเข้ ถึงกับร้องเสียงหลง จึงได้แจ้งให้อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสงเคราะห์เกาะสมุย มาจับดังกล่าว
ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จระเข้ดังกล่าวคาดว่าน่าจะเป็นจระเข้เลี้ยง คาดว่าเป็นจระเข้น้ำจืด และหลุดออกมาจากบ่อเลี้ยงในที่หนึ่งที่ใดในพื้นที่ซอยเขาพระ และได้คลานออกมาหาอาหาร ล่าสุด ทราบว่าทางนายธีระพงศ์ ช่วยชู นายอำเภอเกาะสมุย ได้สั่งการให้ นายเชาวลิต เพชรน้อย ประมงอำเภอเกาะสมุย ตรวจสอบติดตามหาเจ้าของแล้วว่าเป็นของใคร และจระเข้ดังกล่าวมีการขึ้นบัญชีทะเบียนในการขออนุญาตในการครอบครองไว้หรือไม่ พร้อมให้ดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไป